หลายท่านอาจจะสงสัยและดูไม่ออกว่าศิลปะพื้นบ้านหุ่นกระบอกเขาแสดงกันอย่างไรและดูกัน
อย่างไร โดยทั่วไปการเล่นหุ่นกระบอกจะมีทั้งเล่นคืนเดียวและเล่นหลายคืนติดต่อกัน สุดแต่ผู้ว่าจ้าง
ถึงแม้จะเล่นติดต่อกันหลายคืน แต่ทุกคืนก็ต้องเริ่มต้นการแสดงด้วยการรำช้าปี่ไหว้ครูทุกครั้ง แต่ถ้า
เป็นการเล่นหุ่นตอนเย็นในงานศพเรียกกันว่า เล่นหน้าไฟ จะไม่มีการไหว้ครู เพราะเล่นเพียง
ตอนสั้น ๆ เช่น ตอนบุขันเจอพราหมณ์เกสรในเรื่องลักษณวงศ์หรือตอนไชยเชษฐ์กลับจากป่าใน
เรื่องไชยเชษฐ์
การแสดงหุ่นกระบอกโดยทั่วไป ก่อนแสดงจะมีการโหมโรงเป็นการน้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย
และเพื่อให้เกิดสิริมงคลอีกทั้งยังเป็นการประกาศให้คนรู้ว่าจะมีการแสดงมหรสพอย่างหนึ่งอย่างใด
ขึ้น ฉะนั้นวงปี่พาทย์จึงมักประชันขันแข่งกันในเรื่องเสียงของกลองทัด กระทั่งมีการเรียกสูตรลง
นะ บนหน้ากลอง เพื่อให้เกิดความขลังสามารถสะกดเรียกผู้คน ให้มาดูการแสดงของคณะตน
การโหมโรงจะเริ่มต้นด้วยเพลง สาธุการ และเพลง ตระสามตัว ได้แก่ ตระหญ้าปากคอก
ตระปลายพระลักษณ์ และตระมารละม่อม แล้วรัวสามลา ทั้งหมดนี้หมายถึงการบูชาพระรัตนตรัย
เป็นสามคำรบ แล้วจึงออกเพลงหน้าพาทย์อื่น ๆตลอดจนเพลงเกร็ดไปจนถึงเวลาแสดง
ที่คุยกันมานี้ คงทำให้ท่านผู้อ่านมีความรู้ ความเข้าใจ ได้รู้จักการแสดงหุ่นกระบอกมากขึ้น เรียกว่า
ดูเป็นแล้ว ต่อไปจะได้ช่วยกันอนุรักษ์สืบสานสมบัติชาติชิ้นนี้ไว้ให้อยู่คู่กับแผ่นดินไทยไม่สูญสลาย
ไปพร้อมกับเสียงเพลงสังขาราและลมหายใจของครูชื้น สกุลแก้ว
|